ซีรีส์อินเดีย สีดามหารานีแห่งแผ่นดิน EP.40 วันที่ 16 ตุลาคม 2563 ดูย้อนหลัง ตอนที่ 40
สีดามหารานีแห่งแผ่นดิน EP.40 วันที่ 16 ต.ค. 63
เรื่องย่อ สีดา มหารานีแห่งแผ่นดิน ตอนที่ 40
หนุมานพามงกุฎเข้ามาในรั้ววัง มงกุฎมองไปรอบๆ ทั้งเศร้าทั้งดีใจ หนุมานแอบขอโทษที่ช่วยไม่ได้ วังนี้เป็นบ้านที่แท้จริงของมงกุฎ มงกุฎไม่ควรได้รับการต้อนรับกลับบ้านในฐานะนักโทษ ทหารคุมตัวมงกุฎเข้าไปในศาล ลบตามมาแต่ทหารไม่ยอมให้เข้าไป ลบอ้อนวอนขอร้อง แต่ทหารยืนกรานปฎิเสธ ลบนึกถึงคำพูดของหนุมานที่บอกให้ทำตามคำสั่งของใจ ลบแอบปีนเข้าไปในวัง หนุมานนำมงกุฎเข้าไปในศาล มงกุฎเงยหน้ามองพระรามที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ แล้วนึกถึงคำพูดแม่ที่บอกว่าพระรามเป็นพ่อ
.
พระรามนึกถึงคำพูดลูกสะใภ้เศรษฐีที่บอกว่าสามีของนางไม่ได้ทำผิดอะไร พระรามเดินลงมาบัลลังก์ มงกุฎยกมือไหว้น้ำตาคลอ พระรามบอกว่าถ้าเป็นคนอื่นตนคงตัดสินโทษไปแล้ว แต่สำหรับมงกุฎ ตนต้องไตร่สวนก่อนเพราะเท่าที่รู้จักกัน มงกุฎจะไม่ทำเช่นนั้นโดยไม่มีเหตุอันควร พระรามให้โอกาสมงกุฎในชี้แจงเพื่อปกป้องตัวเอง พระรามถามว่าทำไมถึงพยายามฆ่าลูกชายของเศรษฐี? มงกุฎยอมรับว่าเป็นคนลักพาตัวเขาไป และทำให้เขาได้บาดเจ็บ แต่ตนไม่ได้ตั้งใจจะฆ่า ลูกชายเศรษฐีบอกว่ามงกุฎโกหก พระรามบอกว่าลูกชายเศรษฐีไม่มีหลักฐานว่ามงกุฎลักตัวไปฆ่า แต่การลักพาตัวและทำร้ายร่างกาย เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย
มงกุฎบอกว่าที่ตนเองทำทั้งหมดเพราะไม่ได้รับความยุติธรรม พระรามบอกว่าไม่มีความสัมพันธ์ระหว่างความรุนแรงและความยุติธรรม ความรุนแรงไม่เคยส่งผลดีต่อใคร มงกุฎถามกลับว่า ความรุนแรงมีผลแค่ทางกายยังงั้นเหรอ? แล้วความรุนแรงที่ลูกชายเศรษฐี, พ่อของเขา และคนทั้งอโยธยาทำกับสีดาล่ะ? ความรุนแรงนั้นเป็นบาปด้วยใช่ไหม? พระรามอึ้ง มงกุฎบอกว่าทุกคนมองเห็นบาดแผลบนร่างกายของชายคนนี้ แล้วบาดแผลที่พวกเขาทำกับจิตใจของสีดาหล่ะ มีใครเคยคิดบ้างไหม? เป็นเวลาหลายปีที่พวกเขาทรมานสีดาด้วยคำพูด และข้อกล่าวหาที่รุนแรง มงกุฎถามพระรามว่าเคยคิดบ้างไหม ว่าสีดาต้องเจ็บปวดแค่ไหนที่ต้องถูกเนรเทศไปอยู่ในป่า? มีใครเคยคิดถึงการต่อสู้ของเธอบ้างไหม? หรือเพียงเพราะนางไม่ได้อยู่ตรงหน้าพระองค์ และไม่ได้ร้องขอความยุติธรรม
.
มงกุฎถามพระรามว่า อโยธยามีระบบยุติธรรมแบบไหน? ทำไมความยุติธรรมระหว่างชายและหญิงแตกต่างกัน และพระองค์เคยเห็นเหรือไม่ ประชาชนต้องเจ็บปวดทั้งๆที่พวกเขาไม่ผิด เชื้อพระองค์อึ้ง เพราะมงกุฎพูดแทนหมดแล้ว เศรษฐีเห็นท่าไม่ดีก็รีบบอกพระรามว่ามงกุฎกำลังหาเหตุผลให้ตัวเองพ้นผิด ลบมาถึงหน้าประตูก็ตะโกนบอกว่า น้องชายของตนมีเหตุผลที่ทำเช่นนั้น มงกุฎดีใจ พระรามอนุญาติให้เข้ามา ลบเข้าไปทำความเคารพอย่างนอบน้อมและขอโทษที่ต้องเข้ามา พระรามมองลบอย่างมีเมตตา รู้ว่าสองพี่น้องมีจริยธรรมท
.
ลบบอกว่ามงกุฎทำลงไปเพราะความโกรธ ลบถามเศรษฐีว่าทำไมไม่บอกความจริงกับพระราม เกี่ยวกับเรื่องที่ท่านเศรษฐีต้องการให้สีดามาลุยไฟพิสูจน์ความบริสุทธิ์ นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้มงกุฎโกรธแค้น ลบบอกพระรามว่าพวกตนแค่เข้ามาแสดงรามายณะ เพื่อให้ประชาชนได้รู้ความจริงเกี่ยวกับสีดา แต่คนเหล่านี้กลับขอให้สีดามาลุยไฟ พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของสีดา เรื่องนี้ทำให้พวกตนเจ็บปวดและโกรธมาก ลบบอกว่ามงกุฎและตนเจ็บปวดกับข้อกล่าวหาที่มีต่อสีดา แต่ลบสามารถความคุมความโกรธไว้ได้ ต่างจากมงกุฎ เขาโกรธมากจนควบคุมอารมณ์ไม่ได้ แม้กระทั่งตอนนี้ตนก็ยังโกรธท่านเศรษฐี แต่ตนพยายามควบคุมอารมณ์
.
เศรษฐีฟ้องพระรามว่าลบกำลังกล่าวหาตน สองพี่น้องสร้างความปั่นป่วนในอโยธยา ลบกับมงกุฎเป็นเด็กไม่มีหัวนอนปลายเท้า พอถามว่าพ่อแม่คือใคร พวกเขาก็ไม่ยอมตอบ เศรษฐีบอกสองพี่น้องให้บอกชื่อพ่อแม่กับพระราม ลบและมงกุฎหน้าเสีย เศรษฐีคาดคั้นให้พูด สองพี่น้องทำท่าเหมือนจะร้องไห้ พระรามโพล่งขึ้นมาว่าทั้งสองคนเป็นลูกชายตน เศรษฐีและทุกคนตกใจ ลบและมงกุฎดีใจคิดว่าพ่อรู้ความจริงแล้ว ลบได้ยินไม่ถนัดและขอให้พูดใหม่ พระรามบอกว่าลบและมงกุฎอยู่ในอโยธยา ดังนั้นทั้งคู่จึงเปรียบเหมือนลูกของตน เศรษฐีโล่งใจ
.
พระรามถามสองพี่น้องกลับไป ทั้งคู่โกรธที่มีคนขอให้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของสีดาใช่ไหม ทำไม่ต้องต้องโกรธด้วย จริงๆแล้วไม่จำเป็นต้องพิสูจน์หรือโกรธเคือง ความเป็นจริงไม่จำเป็นต้องมีการพิสูจน์ พระรามยกตัวอย่างพระอาทิตย์กับพระจันทร์ที่ไม่เคยต้องการการพิสูจน์ พระรามบอกว่าความเชื่ออันยิ่งใหญ่ระหว่างสีดาและพระองค์ไม่จำเป็นต้องให้คนอื่นเข้ามายุ่ง ไม่ว่าจะเป็นทศกัณฐ์ ท่านเศรษฐี หรือว่าใครๆ พระรามยืนยันว่าทั้งสองคนเชื่อใจกันอย่างแรงกล้าจนถึงตอนนี้ แต่ถ้าทั้งคู่ต้องการพิสูจน์ พระรามก็อยากจะบอกมงกุฎว่า มงกุฎไม่สามารถชนะศรัทธาโดยใช้กำลัง และไม่สามารถเปลี่ยนความคิดผู้คนโดยใช้อาวุธ
.
มงกุฎอ้างว่าตนเองทำเพื่อสีดา พระรามบอกว่า แม้แต่สีดาก็ยังไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เขาทำลงไป ลบและมงกุฎคิดถึงคำพูดของแม่ที่พูดเหมือนกันเป๊ะ พระรามตัดสินคดี ถึงแม้เจตนาของมงกุฎจะบริสุทธิ์ แต่การกระทำเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนั้นไม่ถูกต้อง มงกุฎจึงมีความผิดฐานละเมิดกฎหมาย! ดังนั้นบทลงโทษก็คือ มงกุฎต้องทำให้แผ่นดินแห้งแล้งอุดมสมบูรณ์ ด้วยการทำงานหนักและใช้ความพยายาม มงกุฎต้องกระจายความโกรธไปในทิศทางที่ถูกต้อง และกระจายความรักไม่ใช่ความเกลียดชัง เมื่อผืนดินนั้นอุดมสมบูรณ์และปลูกพืชผล มงกุฎต้องเก็บเกี่ยวพืชผลมาให้เศรษฐีเพื่อเป็นการปลอบใจ ลบรีบตอบตกลงแทนน้องชาย
.
หญิงซักผ้าบอกพระรามว่า ลูกชายเศรษฐีต้องรับโทษด้วยเช่นกัน เพราะเขาทำร้ายภรรยา เศรษฐีเถียงแทนลูกชายว่าสามีภรรยาแค่ทะเลาะกัน เมื่อกี้ลูกสะใภ้ของตนก็บอกทุกคนแล่ว หญิงซักผ้าบอกว่านางไม่ได้พูดความจริง เพราะนางกลัวพ่อเศรษฐี พระรามบอกว่าความยุติธรรมขึ้นอยู่กับหลักฐาน มงกุฎต้องรับโทษของเขา เศรษฐีพอใจและขอตัวกลับ ลบบอกมงกุฎให้ไปขอพรจากพระราม
พระรามบอกว่าลบและมงกุฎทำให้พระองค์นึกถึงพระลักษมณ์และตนเอง พระลักษมณ์เป็นคนหุนหันพลันแล่นเหมือนมงกุฎ แต่พระรามรู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี และต้องอยู่เคียงข้างพระลักษมณ์เสมอ พระรามประทับใจที่เห็นสองพี่น้องคอยช่วยเหลือกัน และลบที่ทำหน้าที่พี่ชายเป็นอย่างดี คอยชี้ทางที่ถูกต้องให้กับน้อง พระรามสอนว่า คนเป็นพี่จะมีความรับผิดชอบมากกว่า ส่วนคนอายุน้อยกว่าก็จะคิดจากใจ พวกเขามักจะอ่อนไหวมาก และขี้โมโห ดังนั้นมันเป็นความรับผิดชอบของลบ ที่จะเข้าใจความรู้สึกของน้อง คอยให้คำแนะนำที่ถูกต้อง พระรามให้พรกับลบและมงกุฎ สองพี่น้องดีใจจนร้องไห้
.
หลังจากทุกคนกลับไปแล้ว พระรามบอกหนุมานว่าการเปลี่ยนแปลงเริ่มขึ้นแล้ว เป็นครั้งแรกที่สตรีอโยธยาลุกขึ้นมาทวงความยุติธรรมให้ผู้หญิงอีกคน วันนี้ตนได้เห็นความเข้มแข็งของผู้หญิงคนหนึ่ง พระรามรู้ว่าลูกสะใภ้เศรษฐีไม่กล้าพูดความจริง ในขณะที่หญิงรับจ้างซักผ้าพยายามเรียกร้องความยุติธรรมให้นาง ความฝันของสิตาเป็นจริงแล้ว นี่เป็นจุดเริ่มต้นเล็กๆ ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน พระรามเริ่มมีความหวังว่าความคิดของชาวอโยธยาจะเปลี่ยนไปในไม่ช้า และคนที่ทำให้พวกเขาเปลี่ยนความคิดก็คือลบกับมงกุฎ
.
พระรามบอกว่าลบและมงกุฎสามารถทำให้ความฝันของสีดาเป็นจริง แต่พวกเขาจะต้องเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ตอนนี้มงกุฎจมอยู่ในความโกรธ ทำให้เขาไม่สามารถแยกแยะระหว่างถูกและผิด พระรามบอกว่าหนุมานก็เคยปล่อยให้อารมณ์ครอบงำแบบนี้มาก่อน จำได้มั๊ย ตอนที่พระรามให้หนุมานไปพบสีดา แต่หนุมานไม่พบวิธี และสิ่งที่ชี้แนวทางที่ถูกต้องก็คือสุนทรกัณฑ์ พระรามสั่งหนุมานไปเล่า สุนทรกัณฑ์ ให้ลบและมงกุฎฟัง เพื่อให้พวกเขากลับรวมตัวกันอีกครั้ง
.
**มหากาพย์รามายณะแต่งโดย ฤๅษีวาลมีกิ เมื่อ 2,400 ปีกว่า มีทั้งหมด 7 กัณฑ์ (ภาค) ได้แก่ พาลกัณฑ์, อโยธยากัณฑ์, อรัณยกัณฑ์, กีษกินธกัณฑ์, สุนทรกัณฑ์, ยุทธกัณฑ์, อุตตรกัณฑ์ ซึ่งสุนทรกัณฑ์ เป็นกัณฑ์ที่ 5 เป็นเรื่องราวการผจญภัยของหนุมาน การไปถวายแหวนให้สีดา เป็นฑูตของพระรามที่ไปประกาศศึกกับทศกัณฐ์
.
มงกุฎถูกพาไปที่ชานเมือง ลบพยายามบอกว่านี่ไม่ใช่แค่การลงโทษของกษัตริย์เท่านั้น แต่ยังเป็นการลงโทษของพ่อของเราด้วย ทุกการลงโทษที่ผู้ใหญ่มอบให้ จะมีบทเรียนอยู่ในนั้นเสมอ บทเรียนนั้นจะนำเราไปสู่หนทางที่ถูกต้อง .. มงกุฎไปถึงที่ที่ต้องทำการเกษตรก็มีจอบเสียมเตรียมไว้รออยู่แล้ว บริเวณรอบๆเป็นพื้นดินที่แตกระแหง ทหารสั่งว่าจะต้องพลิกผืนดินนี้ให้อุดมสมบูรณ์ ชาวอโยธยาตามมาดู นายเงินพูดเยาะเย้ยมงกุฎว่า พื้นดินตรงนี้แห้งแล้งมาก สงสัยว่าอาจต้องใช้เวลาเพาะปลูกจนแก่เฒ่า กว่าจะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้
.
มงกุฎได้ยินก็ยิ่งโกรธ บอกว่านี่คือบทลงโทษของตน จะใช้เวลานานแค่ไหน ตนจะเป็นผู้ตัดสินใจเอง หนุมานแอบดูอยู่ห่างๆ มงกุฎพบวิธีที่ฉลาด มงกุฎตัดสินใจที่จะใช้อาวุธและพลังนำความเขียวขจีกลับคืนมาให้ผืนดิน มงกุฎขว้างจอบทิ้ง บอกว่าพระรามไม่ได้เจาะจงว่าให้ใช้อุปกรณ์อะไร นายเงินคัดค้าน บอกว่าพระรามให้ทำงานนี้เพราะต้องการให้ใช้ความพยายามไม่ใช่พลัง มงกุฎบอกว่าพลังของตนไม่ได้ได้มาง่ายๆ ตนต้องตั้งใจฝึกซ้อมและบางครั้งต้องเสี่ยงชีวิต
.
มงกุฏยิงธนูขึ้นฟ้า หวังจะใช้พลังไถพรวนดิน ทดน้ำให้ไหลผ่านมาทางนี้ หนุมานเริ่มสอนบทเรียน ด้วยการขโมยพลังของมงกุฎ หนุมานเอากำปั้นยันแผ่นดิน ลูกศรของมงกุฎไม่สามารถเคลื่อนย้ายแม้กระทั่งก้อนหินเล็ก ทุกคนพากันหัวเราะ ลบสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น มงกุฎโมโหลองใช้พลังอีกครั้งแต่ไม่ได้ผล มงกุฎทั้งเจ็บทั้งอาย ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตน หนุมานปลอมตัวเป็นนักบวชเดินเข้ามาพูดสะกิดใจ มงกุฎรู้สึกคุ้นๆ กับนักบวชคนนี้ แต่ความโกรธทำให้ขาดสติ (อ่านตอนต่อไป สีดา มหารานีแห่งแผ่นดิน EP.41) ติดตามชม สีดา มหารานีแห่งแผ่นดิน 16/10/63 ทุกวันวันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 14.25 น. ทางช่อง 8 กดเลข 27
