Top Chef Thailand Final วันที่ 24 มิ.ย. 60 Ep.13 สัปดาห์นี้ เป็นการชิงชนะเลิศ ระหว่าง เชฟเมย์ และเชฟตาม การแข่งขันทำอาหารเมนู 5 คอร์ส สำหรับแขกวีไอพี 80 คน
Video : Top Chef Thailand Final วันที่ 24 มิ.ย. 60 Ep.13
https://www.youtube.com/watch?v=vbSakzwOYYY
ดูรายการค้นหาสุดยอดเชฟ ท็อปเชฟ ไทยแลนด์ Top Chef Thailand Final วันที่ 24 มิ.ย. 60 Ep.13 นี้ เป็นรอบชิงชนะเลิศ กันระหว่าง เชฟเมย์ พัทธนันท์ และเชฟตาม ชุดารี การแข่งขันทำอาหารเมนู 5 คอร์ส สำหรับแขกวีไอพี 80 คน รวมถึงคณะกรรมการด้วย
ทีมเชฟตาม
เป้าหมายในการทำอาหารของเชฟตามคือ “ความเซอร์ไพร์ส” เน้นใช้วัตถุดิบไทย เช่นผักตามฤดูกาล แบบที่ไม่เคยน้ำมาใช้ในร้านอาหารประเภท fine dining อาทิ เอายอดมะรุมทานคู่กับน้ำพริก เอามันแกวมาทำของหวาน หรือเอาใบบัวบกมาทำซอส ไอเดียแต่ละอย่างทำเอาลูกทีมนึกไม่ออกว่าแต่ละจานรสชาติจะเป็นยังไง แต่ผู้ที่จะชนะหรือแพ้ก็คือเชฟตาม อาหารที่ออกมาจึงเป็นรสชาติของเชฟตาม เมื่อถูกเลือกให้มาอยู่ในทีม เชฟทุกคนจึงไว้วางใจเชฟตามและแสดงสปิริตแบบเต็มที่ การทำงานของทีมนี้จึงออกแนวมุ้งมิ้ง ในการเตรียมงานวันแรก พอเริ่มต้นก็มีปัญหา เพราะเกิดอุบัติเหตุกับเชฟกิ๊ก เอ็นฉีกจนเดินไม่ค่อยไหว แต่เชฟตามก็พยายามหางานที่เหมาะให้ วันที่ 2 เชฟตามมอบหมายให้เชฟบัสคอยเก็บตกทุกเรื่อง มาดูกันว่าเมนู 5 คอร์สนั้นมีอะไรบ้าง
• เมนูที่ 1 มาจากความทรงจำในวัยเด็ก น้ำพริกไข่เค็ม กุ้งลายเสือย่าง ปูม้า และผักไทยพื้นบ้านอย่างยอดมะรุม
• เมนูที่ 2 กะหล่ำทอดซอสหอย น้ำมันสมุนไพร และขนมปังข้าวกล่ำ
• เมนูที่ 3 ปลาเก๋าห่อใบชะพลู เลือดหมู และน้ำซุปข้าวไรซ์เบอร์รี่ เชฟอาร์ตกับเชฟต้นบอกว่าเลือดหมูทำให้เมนูนี้เสียไปเลย
• เมนูที่ 4 ลิ้นวัวตุ๋นและเนื้อท้องย่าง ไรซ์เบอร์รี่รีซอตโต ซอสใบบัวบก
• เมนูที่ 5 เค้กข้าวเหนียว มันแกวเผา ไอศกรีมเปลือกมันแกว คัสตาร์ดมะนาวขมิ้น และขิง
ทีมเชฟเมย์ พัทธนันท์
คอนเซปท์อาหารของเชฟเมย์ก็คือ “western with asian twist” อาหารที่ผสมผสานกันทั้งสไตล์ยุโรปและเอเซีย ที่เห็นหน้าตาดูเป็นอาหารฝรั่งมากกว่าไทย แต่พอได้ทานแล้วจะรู้ว่าเป็นอาหารไทย มีรสชาติความเป็นเอเซีย เชฟเมย์จึงเลือกเชฟอ้อยที่เก่งเรื่องอาหารไทยให้มาดูแลเรื่องนี้ แต่วิธีทำอาหารจะใช้วิธีแบบยุโรปที่ให้ความสำคัญเรื่องสุขอนามัย (HACCP) เชฟเมย์กำชับลูกทีมว่าอาหารทุกจานต้องมี 3 อย่างเหมือนกันคือ “plating cutting done” อาหารทุกจานต้องตกแต่งเหมือนกัน ตัดเป็นชิ้นเท่าๆกัน และมีความสุกระดับเดียวกัน
ทีมเชฟเมย์พอเริ่มไปซักพักก็มีปัญหา เพราะเชฟเมย์กดดันจนเชฟอ้อยเดินร้องไห้ออกจากครัว เชฟฮูโต๋ก็เดินตามไปปลอบใจ พร้อมขอให้เชฟอ้อยกลับมา แต่เชฟอ้อยไม่ยอมกลับเข้าครัว เพราะรู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้ใหญ่กว่า เชฟเมย์ไม่น่าพูดอย่างนั้นกับตัวเอง แต่ในที่สุดเชฟอ้อยก็เดินกลับมา เพราะความรู้สึกรับผิดชอบในหน้าที่ ที่สำคัญเพื่อเป็นการให้เกียรติเชฟเมย์ที่อุตส่าห์เลือกเชฟอ้อยมาเป็นลูกทีม ทางด้านเชฟเมย์ก็ตั้งใจไว้แล้วว่าถ้าเชฟอ้อยกลับมา ทีมของตัวเองก็พร้อมที่ลืม และเริ่มต้นกันใหม่ วันที่ 2 เชฟเมย์จึงไม่กดดันเชฟอ้อย หลีกเลี่ยงการสื่อสารกันโดยตรง บรรยากาศจึงค่อนข้างตรึงเครียด
• เมนูที่ 1 เมนูแห่งวัฒนธรรม ข้าวเกรียบสาคู มูสน้ำพริกหนุ่มคาเวียร์, เมี่ยงบัวหลวง, พล่าเนื้อย่าง หน้าตาทันสมัย แต่รสชาติดั้งเดิม
• เมนูที่ 2 เชียงใหม่สู่กรุงโรม สลัดร็อกเก็ตและมะเขือเทศเชอร์รี่ตุ๋นน้ำมันมะกอก
• เมนูที่ 3 ซุฟต้มจิ๋วเนื้อหางวัว เชฟวิลแมนบอกว่าเครื่องเทศแรงไปจนกินไม่ได้
• เมนูที่ 4 ไทยนิยม โครแกต์แกงเผ็ดเป็ดย่าง มัสมั่นแกะ เห็ดเผาะ อาจาด และมันฝรั่งพูเร่
• เมนูที่ 5 รวมมิตรขนมหวานไทย เค้กกล้วยน้ำว้าซอสคาราเมล ชีสมูสข้าวเหนียวมะม่วง มีลูกไหนเชื่อม และไอศกรีมเชอร์เบทมังคุด กุหลาบ
ผลการตัดสิน : ผู้ชนะTop Chef Thailand คนแรกของเมืองไทยคือ เชฟตาม ชุดารี เทพาคำ อายุ 24 ปี เป็นเชฟที่มีอายุน้อยที่สุดในรายการ แม้จะอายุยังน้อยแต่เชฟตามเป็นเชฟที่มีความคิดสร้างสรร กล้าที่ทำเมนูใหม่ๆออกมา ที่สำคัญคือเชฟตามมีความอ่อนน้อมถ่อมตน พอได้ 3 เสือมาอยู่ในทีมแล้วเชฟตามก็มีการจัดการทีมที่ดี บอกให้รู้ว่าเป้าหมายคืออะไร แล้วให้ทุกคนทำในสิ่งที่ตัวเองถนัด ไม่กดดันลูกทีม ชัยชนะครั้งนี้จึงมาจากตัวตัวตนของเชฟตามอย่างแท้จริง เพราะคนที่จะเป็นท็อปเชฟนอกจากทำอาหารเก่ง จะต้องเก่งเรื่องการจัดการด้วย ประสบการณ์ของเธอนั้นก็ไม่ธรรมดาเลย เพราะเชฟตามทำงานเป็นรองหัวหน้าเชฟ (Sous-Chef) อยู่ที่ร้าน Blue Hill at Stone สหรัฐอเมริกา ซึ่งร้านนี้ถูกจัดว่าเป็นร้านอาหารที่ดีที่สุด อันดับที่ 11 ของโลก และถูกจับตามองว่าเป็นร้านอาหารที่มาแรงที่สุดในปี 2017 นับว่าเป็นเชฟที่มีอนาคตไกลอีกท่านหนึ่ง
#TOPCHEFTHAILAND #TOPCHEF #ท็อปเชฟ #EP.13 #24 มิ.ย. 60
