อีสุกอีใส งูสวัด เกิดจากเชื้อไวรัสชนิดเดียวกัน

อสกอใส งสวด เกดจากเชอไวรสชนดเดยวกน เชอวารเซลลา

อีสุกอีใส งูสวัด เกิดจากเชื้อไวรัสชนิดเดียวกัน

โรคที่ผู้ใหญ่หลายคนโดยเฉพาะสาวกลัวกันมากก็คือ โรคอีสุกอีใส หลายคนสงสัยว่าโรคนี้เกิดขึ้นอย่างไร แล้วทำไมเมื่อเป็นแล้วจะมีความรู้สึกอาย แต่ความจริงแล้วไม่ได้เป็นเรื่องที่น่าอายเลยเนื่องจากการเป็นโรคอีสุกอีใสนั้นก็เป็นเหมือนการป่วยไม่สบายอย่างหนึ่งคล้ายกับการเป็นหวัด ข้อดีของการป่วยเป็นโรคอีสุกอีใสนั้นก็คือเราสามารถเป็นโรคนี้ได้แค่ครั้งเดียวให้ชีวิตเท่านั้น เพราะเมื่อเราเป็นโรคอีสุกอีใสในครั้งแรก ร่างกายของเราจะสร้างภูมิคุ้มกันทำให้ร่างกายของเราไม่กลับมาเป็นโรคอีสุกอีใสอีก และโรคอีสุกอีใสนั้นเป็นโรคที่มีระยะเวลาในการป่วยที่ค่อนข้างสั้นมาก โดยมีระยะเวลาเพียงแค่ 7-14 วันเท่านั้น แต่ข้อดีก็มาพร้อมกับข้อเสีย เพราะเป็นการนำมาซึ่งโรคงูสวัด 

อีสุกอีใส งูสวัด เกิดขึ้นได้อย่างไร ?

โรคอีสุกอีใส (Chickenpox) เกิดจากการติดเชื้อไวรัสวาริเซลลา (Varicella) เป็นไวรัสชนิดหนึ่งที่ในอยู่กลุ่มใกล้ๆ กันกับไวรัสที่ทำให้เกิดโรคเริม ผู้ป่วยจะมีผื่นแดงๆ ตุ่มใส หรือว่าตุ่มหนองกระจายขึ้นตามผิวหนัง หรือแผ่นหลัง และผู้ป่วยจะมีไข้ ซึ่งโรคอีสุกอีใสถึงแม้จะหายแล้ว แต่เชื้อไวรัสที่่อให้เกิดโรคอีสุกอีใสนั้นก็ยังคงฝังตัวอยู่ในร่างกายของเราโดยจะไปซ่อนตัวอยู่ที่ปมประสาทรากบนของไขสันหลัง และเชื้อไวรัสตัวนี้จะกลับมาแสดงผลอีกก็ต่อเมื่อร่างกายของเราได้รับการพักผ่อนที่ไม่เพียง ความเครียด เนื่องจากในขณะนั้นเป็นช่วงที่ร่างกายอ่อนแอทำให้เชื้อไวรัสเหล่านั้นสามารถจู่โจมร่างกายของเราได้ง่าย ซึ่งเชื้อไวรัสที่ฝั่งอยู่ในร่างกายของเราก็จะแสดงผลออกมาในลักษณะตุ่มใสๆ โดยมีชื่อเรียกว่า โรคงูสวัด (Herpes Zoster) คือใครที่ยังไม่เคยเป็นโรคอีสุกอีใสจะไม่มีทางที่จะเป็นโรคงูสวัดเด็ดขาด ซึ่งเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดโรคอีสุกอีใสกับงูสวัดนั้นเป็นเชื้อไวรัสตัวเดียวกัน แต่ว่าการแสดงอาการของมันแตกต่างกัน ในส่วนของงูสวัดนั้นมันสามารถเกิดขึ้นซ้ำๆ ได้ หากร่างกายของเราอ่อนแอ

ความรุนแรงและแผลเป็นของโรคอีสุกอีใส

หากโรคอีสุกอีใสเกิดขึ้นเมื่อตอนที่เรายังเด็กๆ ก็จะมีอาการไม่มากโดยมีระยะเวลาในการป่วยไม่เกิน 7 วันเท่านั้น ส่วนแผลเป็นที่เกิดขึ้นกับเด็กนั้นก็จะหายได้เร็วและดีกว่าผู้ใหญ่ เนื่องจากร่างกายและผิวของเด็กมีการพัฒนาได้ดีกว่าผู้ใหญ่ ดังหากเกิดโรคอีสุกอีใสตอนเด็กจะมีโอกาสเกิดแผลเป็นที่น้อยกว่าผู้ใหญ่นั่นเอง 

ข้อควรระวัง

โรคอีสุกอีใสเมื่อเป็นแล้วจะเกิดตุ่มใสๆ ซึ่งหลายคนเมื่อเห็นแล้วก็จะเจาะหรือพยายามทำให้ตุ่มนั้นแตกเพราะคิดว่าจะหายเร็วขึ้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว หากตุ่มใสๆ นั้นแตกเมื่อไหร่ละก็จะทำให้เหล่าเชื้อไวรัสและเชื้อแบคทีเรียอื่นๆ เข้าสู่ร่างกายได้ง่าย จึงทำให้เกิดการติดเชื้อได้ในเวลาต่อ เมื่อตุ่มของโรคอีสุกอีใสเกิดการติดเชื้อก็จะทำให้เกิดการอักเสบ ก็จะทำให้เชื้อไวรัสของโรคอีสุกอีใสนั้นลงลึกเข้าสู่ชั้นผิวหนังของเรามากกว่าเดิม ซึ่งทำให้เกิดเป็นหลุดและแผลเป็นได้

วิธีดูแลตัวเองเมื่อเป็นโรคอีสุกอีใส

1. ไม่ควรเจาะหรือพยายามแกะตุ่มใสๆ ที่เกิดขึ้นตามร่างกาย และควรปล่อยให้มันยุบไปเองตามธรรมชาติ ซึ่งเป็นการหลีกเลี่ยงการเกิดแผลเป็นได้ดีที่สุด 

2. เมื่อไข้ขึ้นสูงมากๆ ให้ใช้วิธีเช็ดตัว ถ้าผู้ป้วยเป็นเด็กก็ไม่ควรใช้ยาลดไข้กลุ่มแอสไพรินเพราะอาจจะมีโรคแทรกซ้อนตามมาในภายหลังได้ ปรกติโรคนี้เป็นเองแล้วก็จะหายเอง แต่ในผู้ใหญ่หากไม่ต้องการให้มีการอักเสบหรือเป็นแผลเป็นมากๆ อาจรับประทานต้านเชื้ออีสุกอีใส ภาย 24-48 ชั่วโมงหลังจากเกิดผื่น แต่ไม่ควรซื้อยามาทานเองควรปรึกษาแพทย์ก่อน

3. รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ซึ่งไข่นั้นสามารถทานได้เพราะจริงๆ แล้วไข่เป็นโปรตีนซึ่งโปรตีนนั้นมีหน้าที่ซ่อมแซ่มร่างกายของเรา และไม่มีอาหารชนิดใดที่ทำให้เกิดแผลเป็นได้

4. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ทำจิตใจให้สดชื่นแจ่มใส

วิธีป้องกันโรคอีสุกอีใส สำหรับใครที่ไม่อยากให้ลูกหลานเป็นโรคอีสุกอีใสแล้วละก็ควรที่จะไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใสไว้ตั้งแต่ตอนเด็กๆ