แคลอรี่ คืออะไร? การนับแคลอรี่ แคลอรี่ต่อวันสำหรับผู้หญิงและผู้ชาย

แคลอรี่ คืออะไร? แคลอรี่ต่อวันสำหรับผู้หญิงและผู้ชาย การนับแคลอรี่ที่ถูกต้อง แคลอรี่ใหญ่ แคลอรี่อาหาร (Cal) ที่เขียนไว้ข้างกล่อง food calorie

 calorie

เรื่องอาหารการกินถือเป็นเรื่องสำคัญของคนในยุคนี้ และในคนบางกลุ่มหรือผู้ที่รักสุขภาพก็มักจะควบคุมอาหารที่รับประทานเข้าไปโดยจะเน้นผักและพยายามลดแป้งหรือเนื้อสัตว์ให้น้อยลง บางคนก็นับแคลอรี่ที่รับประทานเข้าไปต่อ 1 วัน โดยทั่วไปแล้วผู้หญิงเราควรที่จะได้รับพลังงานแคลอรี่ที่เหมาะสมกับร่างกายเฉลี่ยอยู่ที่ 1,800-2,000 กิโลแคลอรี่ต่อวัน ส่วนผู้ชายควรที่จะได้รับพลังงานแคลอรี่ที่เหมาะสมกับร่างกายเฉลี่ยอยู่ที่ 2,200-2,500 กิโลแคลอรี่ต่อวัน แล็วแคลอรี่ที่กล่าวมานั้นคืออะไร?

แคลอรี่ คืออะไร?

แคลอรี่ (Calorie) เป็นหน่วยวัดพลังงานของร่างกายที่เราได้รับและใช้ไป โดยจะเปรียบเทียบได้กับการทำบัญชีรายรับรายจ่ายนั่นเอง เมื่อเราได้รับพลังงานเกินกว่าที่ร่างกายต้องการ พลังงานนั้นก็จะถูกเก็บสะสมไว้รูปของไขมันและทำให้ร่างกายของเรามีน้ำหนักที่เพิ่มมากขึ้น แต่ในทางกลับกัน หากเราได้รับพลังงานน้อยกว่าที่ร่างกายต้องการ ก็จะทำให้น้ำหนักของร่างกายนั้นลดลง

แคลอรี่ใหญ่ (Large calorie) หรือกิโลแคลอรี่ เป็นหน่วยของพลังงานที่ได้จากการเผาผลาญอาหาร โดยจะเทียบเท่ากับพลังงานที่ทำให้น้ำ 1 กิโลกรัม มีอุณหภูมิเพิ่มขึ้น 1 องศาเซลเซียส หรือเท่ากับ 4.186 กิโลจูล (kilojoule หรือ KJ) หลายคนอาจจะสับสันเวลาที่อ่านในฉลากอาหาร แคลอรี่สำหรับอาหารที่เขียนไว้ข้างกล่อง หรือ food calorie ที่เขียนไว้ว่าเท่านั้นเท่านี้แคลอรี่ จะเป็นแคลอรี่ใหญ่ โดย 1 แคลลอรี่อาหาร (1 Cal) มีค่าเท่ากับ 1 กิโลแคลอรี่ (kcal) หรือ 1,000 แคลอรี่(calorie)

1 Cal = 1000 cal = 1 kcal

ต้องแยกแยะให้ออกระหว่าง แคลอรี่ กับ แคลอรี่อาหาร โดยเจ้าแคลอรี่นั้น มีอยู่ในทุกอย่างที่เราได้รับประทานเข้าไปในร่างกายซึ่งมันจะเป็นพลังงานของเหล่าอาหารที่ถูกเก็บไว้ในรูปของพันธะเคมี เช่น

• ขนมปัง 1 แผ่น จะมีพลังงานเฉลี่ยอยู่ที่ 80 กิโลแคลอรี่

• แอปเปิ้ล มีพลังงานเฉลี่ยอยู่ที่ 50 กิโลแคลอรี่

• กล้วยน้ำว้า มีพลังงานเฉลี่ยอยู่ที่ 40 กิโลแคลอรี่

• ข้าวสวย3 ทัพพี มีพลังงานเฉลี่ยอยู่ที่ 240 กิโลแคลอรี่

• ก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กต้มยำหมู 1 ชาม มีพลังงานเฉลี่ยอยู่ที่ 335 กิโลแคลอรี่

โดยพลังงานที่กล่าวมานั้นจะถูกแบ่งออกไปใช้ 3 ส่วนด้วยกันนั้นก็คือ

– การย่อยอาหาร 10%

– การทำกิจกรรมต่างๆ 20%

– การทำงานพื้นฐานของอวัยวะและเนื้อเยื่อต่างๆ ในร่างกาย 70%

อย่างไรก็ตามพลังงานแคลอรี่ของคนเรานั้นจะไม่เท่ากัน แต่ว่าทั่วไปผู้ชายจะสามารถรับพลังงานได้ไม่เกิน 2,500 กิโลแคลอรี่ ส่วนผู้หญิงก็ไม่เกิน 2,000 กิโลแคลอรี่ แต่สำหรับผู้ที่ต้องพลังงานมากๆ อย่างนักกีฬา ผู้ที่ใช้แรงงานหรือผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ก็จำเป็นต้องใช้พลังงานมากกว่าปกติ ซึ่งต่างจากผู้สูงอายุ เพราะในช่วงวัยนั้นเป็นช่วงที่ร่างกายของเรานั้นเสื่อมถอยและทำให้สามารถเผาผลาญพลังงานช้าลง ทำให้ร่างกายต้องการพลังงานที่น้อยลงนั่นเอง

สำหรับผู้ใดที่ชอบนับแคลอรี่ในขณะที่รับประทานอาหารนั้น ต้องทำความเข้าใจใหม่ด้วยว่า ปริมาณพลังงานอาหารที่รับประทานเข้าไปนั้นไม่ใช้พลังงานจริงที่เราได้รับ แต่อาหารบางส่วนจะหายไปในขณะที่ย่อย และหากอาหรที่รับประทานเข้าไปมีกากใยที่สูงก็จะยิ่งทำให้การย่อยนั้นช้าลง ดังนั้นการที่เรานับแคลลอรี่สำหรับอาหารที่รับประทานเข้าไปนั้น ร่างกายของเราจะได้รับพลังงานที่น้อยลงเพราะจะสูญเสียพลังงานไปในช่วงของการย่อยอาหารนั่นเอง

ขอบคุณที่มา รายการ Did you know ?